ชาเขียว

คุณรู้ไหมว่า ชาเขียว เป็นเครื่องดื่มที่คนทั่วโลกนิยมชื่นชอบดื่มกันมาก
รองจากน้ำเปล่า ซึ่งในปัจจุบันน้ำชากำลังได้รับความนิยมบริโภคกันทั่วโลก
โดยในบรรดาชาทั้งหลายแล้ว ชาเขียวกำลังเป็นกระแสความนิยมจากผู้คนทั่วโลกเป็นอันดับหนึ่ง ก็เพราะสรรพคุณที่มีอยู่มากมายนั่นแหละ
อัตราการบริโภคชาเขียวจึงมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นทุกวัน
ทั้งในประเทศตะวันออกและตะวันตก อาจกล่าวได้ว่าชาเขียวเปรียบเสมือน
"น้ำอมฤต" ยิ่งกว่านั้นในประเทศแถบตะวันออกเชื่อกันอย่างจริงจังว่า
ชาเขียวมีฤทธิ์ในการบำบัดรักษาโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีนมีคำกล่าวว่า
"ดื่มชาเขียวดีกว่ากินยา"
สรรพคุณของชาเขียว
สดชื่น...แจ่มใส! เอาตั้งแต่เริ่มแรกกันเลยนะ
ชาช่วยทำให้สิ่งแวดล้อมรอบตัวเราสดชื่นสะอาดปลอดโปร่งและน่าอยู่ขึ้น
มีงานวิจัยชิ้นใหม่ชี้ว่า ถุงชา (tea bag) ช่วยบำบัดโรค
"sick-house syndrome" หรือ
"มลภาวะภายในอาคารเป็นพิษ" (Indoor Air Pollution) ซึ่งเป็นอาการป่วยที่มีสาเหตุมาจากการแพ้อากาศภายในอาคารและบ้านที่พักอาศัย
เช่น สารเคมีจากสีทาบ้านหรือจากเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ
ภายในบ้านเนื่องจากสารฟอร์มัลดีไฮด์ (formal-dehyde) ที่ผสมอยู่ในสารเคมีเพื่อการตกแต่งบ้าน
มักจะส่งกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์
อาจเป็นสาเหตุทำให้ร่างกายเกิดอาการแพ้และมีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ
จากการทดลองพบว่าใบชาดำหรือชาเขียว ทั้งที่ยังใหม่และที่ใช้แล้ว (ผ่านการชงแล้ว)
จะดูดสารนี้ไว้แล้วไม่ปลดปล่อยสารกลับเข้าสู่บรรยากาศหลังจากดูดไว้แล้ว และถ้าทิ้งใบชาไว้ในที่อับหรือปิด
เช่น ในตู้เก็บถ้วยชาม
ใบชาจะช่วยลดปริมาณของสารฟอร์มัลดีไฮด์ที่มีอยู่ในอากาศอีกด้วย
กำจัดเนื้อร้าย ในชาเขียวมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์
ที่จำเป็นต่อการเติบโตหรือการลุกลามของเซลล์มะเร็ง และสามารถทำลายหรือฆ่าเซลล์มะเร็งได้โดยไม่มีผลกระทบกับเซลล์ดีอื่น
ๆ ยังมีผลการวิจัยอื่น ๆ อีกพบว่า
ชาเขียวอาจจะเป็นอาวุธที่ใช้กำจัดบรรดาเนื้อร้ายต่าง ๆ ให้ราบคาบลงได้
ไม่ว่าจะเป็น โรคมะเร็งเต้านม มะเร็งในกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งในหลอดอาหารและมะเร็งในตับ เป็นต้น
มีผลการศึกษาชิ้นหนึ่งชี้ชัดว่า
ญี่ปุ่นซึ่งมีอัตราของผู้สูบบุหรี่สูงที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง
แต่กลับมีอัตราของผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดต่ำสุด
เมื่อเปรียบเทียบกับบรรดาประเทศที่พัฒนาอื่น ๆ ทั้งนี้เนื่องมาจากชาวญี่ปุ่นบริโภคชา
พร้อมกับอาหารเป็นประจำทุกมื้อมาช้านานแล้ว
เรื่องของหัวใจ มีการศึกษาว่า
การดื่มชาเขียวช่วยลดอัตราการเสี่ยงจากการเป็นโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง (stroke)
จากผลการวิจัยอื่น ๆ ยังพบอีกว่า
ชาเขียวมีสรรพคุณเทียบเท่ายาแอสไพริน ในการช่วยยับยั้งการแข็งตัวของเลือดที่ผิดปกติ
ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคหัวใจวายและหลอดเลือดสมอง
นอกจากนั้นแล้วยังมีการวิจัยพบว่าสตรีชาวญี่ปุ่นอายุ 40 ปีขึ้นไปที่ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
และไม่สูบบุหรี่ แต่บริโภคชาเขียวเป็นประจำประมาณห้าถ้วยต่อวัน
มีอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดสมองลดลงถึง 50 เปอร์เซ็นต์
น้ำพุแห่งวัยหนุ่มสาว มีการพิสูจน์แล้วว่าสารต้านอนุมูลอิสระในชาเขียว
สามารถช่วยชะลอความชราและคงความเยาว์วัยได้
ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระในชาเขียวไม่เพียงแต่จะมีประสิทธิภาพสูงมากกว่าวิตามินซีถึง
100 เท่า แต่ยังมีประสิทธิภาพสูงกว่าวิตามินอีอีกถึง
25 เท่าในการทำลายอนุมูลอิสระ
ต้านโรคไขข้ออักเสบ กล่าวกันว่าชาเขียวช่วยป้องกันโรคข้ออักเสบรูห์มาติก
(rheumatoid arthritis) ที่มักจะเกิดกับสตรีวัยกลางคน
อาการของโรคโดยทั่วไปคือมีอาการของการอักเสบบวมแดง
ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อและข้อต่อ
ลดระดับคอลเลสเทอรอล สารแคเทชินในชาเขียว
ช่วยทำลายคอเลสเทอรอล และกำจัดปริมาณของคอเรสเทอรอลในลำไส้ แค่นั้นยังไม่พอ
ชาเขียวยังช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับที่พอดีอีกด้วย
ควบคุมน้ำหนัก ถ้าคุณกำลังพยายามลดน้ำหนักอยู่
การจิบชาเขียวสามารถช่วยได้ดีทีเดียว จากการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยเจนีวา
สวิตเซอร์แลนด์พบว่า ชาเขียวช่วยเร่งให้ร่างกายมีการเผาผลาญอาหารและไขมันมากขึ้น
ต่อสู้กลิ่นปากและแบคทีเรีย ป้องกันฟันผุ
การดื่มชาเขียวนอกจากจะทำให้ร่างกายอบอุ่นแล้ว
ยังช่วยทำให้ลมหายใจสดชื่นและป้องกันการติดเชื้อได้ด้วย อันที่จริงแล้วพบว่าชาเขียวเป็นตัวช่วยยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปาก
ต่อสู้กับเชื้อไวรัสในปากโดยกำจัดเชื้อแบคทีเรีย
ผลการทดลองชี้ว่ายาสีฟันหรือน้ำยาบ้วนปากอย่างเดียวนั้น
ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการต่อสู้กับเชื้อไวรัส ผลการศึกษาสรุปว่า
สารพอลิฟีนอลส์ในชาเขียวช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียถึง 30%
และลดการผลิตของสารประกอบที่เป็นสาเหตุทำให้ลมหายใจเหม็นบูด
นอกจากนี้ชาเขียวมีสรรพคุณช่วยป้องกันฟันผุ
โดยช่วยยับยั้งแบคทีเรียที่ชื่อ Streptococcus mutans ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดหินปูนที่มาเกาะฟัน
คนส่วนใหญ่จะดื่มชาเขียวหลังอาหาร เพื่อช่วยให้ลมหายใจและกลิ่นปากสะอาดสดชื่น
ป้องกันเชื้อไวรัสเอชไอวี ข้อมูลในวารสารวิทยาภูมิคุ้มกันทางการแพทย์
และโรคภูมิแพ้ฉบับประจำเดือนพฤศจิกายนตีพิมพ์ไว้ว่า
สารแคเทชินในชาเขียวโดยเฉพาะพระเอกตัวเก่ง EGCG มีสรรพคุณป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี
ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่า ชาเขียวเข้มข้นช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสเอชไอวี
จับตัวกับเซลล์เม็ดเลือดขาว
ชนิดที่มีความสำคัญต่อภูมิคุ้มกันในร่างกายของคนเราที่เรียกว่า
"ทีเซลล์" (T cells) ซึ่งเป็นด่านแรกที่ทำให้มีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีได้
ถ้ามีผลการศึกษาเพิ่มเติมยืนยันผลการวิจัยดังกล่าวนี้
นักวิจัยกล่าวว่าจะนำสารในชาเขียวมาใช้ทดลองในการผลิตยาชนิดใหม่
เพื่อป้องกันการลุกลามของเชื้อเอชไอวี
นอกจากประโยชน์และสรรพคุณมากมายจากการดื่มชาเขียวที่บอกไปแล้วนั้น ชาเขียวยังมีประโยชน์อีกมากมาย อาทิ
ช่วยห้ามเลือดหรือทำให้เลือดไหลช้าลง บรรเทาอาการผื่นคันและแมลงสัตว์กัดต่อย
น้ำมันจากต้นชาที่ผสมในแชมพูและครีมบำรุงผิวช่วยบำรุงผิว
และทำให้เส้นผมเป็นประกายเงางาม
นอกจากนี้นักวิจัยยังกำลังศึกษาเพิ่มเติมว่าชาเขียวอาจจะช่วยป้องกันผิว
จากอันตรายของแสงแดดได้

ขอบคุณที่มา : sanook